วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558

พ่อแม่ควรวางแผนอนาคตให้ลูก

พ่อแม่ควรวางแผนอนาคตเอาไว้ให้ลูกบ้าง เพราะบาง สิ่งที่เขาเลือกอาจมีการผิดพลาดได้ เพราะทัศนคติในการมอง โลกของเขายังเยาว์นัก อาจตัดสินใจได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก พ่อแม่ จึงควรมีแผนสำรองเผื่อไว้ในใจ เผื่อเกิดมีปัญหาขึ้นมา เซ่น เรียนไม่จบมัธยมปลาย ไม่อยากเข้ามหาวิทยาลัย หรือว่าสอบ เข้ามหาวิทยาลัยของรัฐไม่ได้จะทำอย่างไร  ห่วงยางหงษ์ขาว พ่อแม่ต้องช่วยเขา คิด ต้องแนะแนวทางเดินให้เขาใหม่ หากปล่อยให้เขาตัดสินใจ เอง คิดเอาเอง อาจไม่ดีเท่าที่ควร เพราะเด็กอาจทำอะไรตามใจ ตนเองหรือตามเพื่อนฝูง พ่อแม่ควรมีการวางแผนเผื่อเอาไว้เซ่น หากเขาไม่ต้องการเรียนต่อ ก็อาจต้องทำอาชีพอิสระ เซ่น การ ค้าขาย เอนทรานซ์ไม่ติดก็เข้ามหาวิทยาลัยเปิด ซึ่งมีอยู่มากมาย เป็นต้นพ่อแม่ควรทำอะไรเพื่อลูก ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง เช่น บังคับ ให้เรียนพิเศษ บังคับให้อ่านหนังสือที่ตนเองสนใจ ทุกเรื่อง เป็นการบังคับเกือบทั้งหมด ลูกไม่มีโอกาสได้คิดได้ตัดสินใจ ด้วยตัวเองเลย การกระทำอย่างนี้ถือเป็นการกระทำที่ผิด แม้ว่า พ่อแม่จะทำไปด้วยความรัก ความห่วงใยก็ตามที เพราะมัน'จะ ทำให้เด็กไม่เป็นตัวของตัวเอง จะทำอะไรก็ต้องถามพ่อแม่ก่อน ในอนาคตเขาคงจะอยู่ร่วมกับผู้คนในส้งคมได้อย่างยากลำบาก เมื่อไม่มีใครมาคอยบงการ ไม่มีใครมาคอยบอกให้ทำโน่นทำนี้ เขาจะทำอะไรด้วยตนเองไม่เป็นเลย พ่อแม่นั้นคงไม่ได้อยู่กับ ลูกตลอดไป วันหนึ่งเขาต้องแยกออกไปสร้างครอบครัวใหม่ ต้อง ห่วงยางคอ  ไปใช้ชีวิตด้วยตนเอง การที่พ่อแม่ชื่นชมลูกของคนอื่นอยู่บ่อยๆ ว่าลูกเขาดี ลูกเขาเก่ง ทำไมลูกเราทำแบบนี้ไม่ไดี'นะ หากเพียงแค่คิดในใจ คงไม่มีปัญหาอะไร แต่หากพูดให้ลูกได้ยินเสมอทุกเมื่อเชื่อวัน ทำไมลูกไม่เอาอย่างเขานะ สู้เขาไม่ได้เลย การกระทำอย่างนี้ไม่ สามารถทำให้อะไรดีขึ้นได้หรอกนะ กลับเป็นการบั่นทอนกำลัง ใจกันเปล่าๆ ทางที่ดีพ่อแม่ควรใช้คำพูดปลอบโยน หรือให้กำลัง ใจน่าจะดีกว่า เช่น พ่อคิดว่าลูกก็ทำได้พยายามเพิ่มอีกหน่อยนะ ตั้งใจอ่านหนังสือให้มากขึ้น คะแนนของลูกก็จะดีขึ้น การพูดจา อาจทำ1ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไป'ในทางที่ดี'ได้ เพราะลูกมีกำลัง ใจมากขึ้นนั่นเองพ่อแม่นั้นเป็นผู้ที่มีอิทธิพลกับลูกโดยตรง เพราะความ ใกล้ชิด ดังนั้นพ่อแม่ควรวางตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูก บางครั้ง บางทีเราอาจจะเผลอไผลทำสิ่งที่ไม่ดีให้ลูกเห็น เช่น การทิ้งขยะ ไม่เป็นที่เป็นทาง การไม่เข้าแถวเพื่อชื้ออาหาร เบียดบังเอาของ คนอื่นมาเป็นของตน สิ่งเหล่านี้อาจซึมเข้าไปในจิตใจของลูกได้ เด็กๆ นั้นมีจินตนาการ มีความคิดเปีนของตนเอง ยิ่ง ช่วงวัยรุ่นเขาอาจจะมีโลกส่วนตัวสูงมาก เขาจึงต้องการอิสระ เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งพ่อแม่ต้องเข้าใจตรงจุดนี้ด้วย และควร เปิดโอกาสให้เขาได้ทำอะไรตามใจบ้างตามสมควร แต่ขอเพียง สระน้ำเด็ก  ให้พ่อแม่ได้รับรู้ก็เพียงพอ เขาจะทำอะไรพ่อแม่ต้องคอยสอด ส่องดูแลอยู่ห่างๆ คำว่า “อิสระ” ไม่ได้หมายความว่า พ่อแม่ ต้องปล่อยปละละเลยไม่สนใจลูก เพราะหากเป็นอย่างนั้นลูก อาจทำอะไรผิดพลาดจนเสียผู้เสียคนได้

ห่วงยางเล่นน้ำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น